บอสตันวางแผนที่จะต่อสู้กับวิกฤตการยึดสังหาริมทรัพย์

เจ้าของบ้านกำลังพังทลายภายใต้แรงกดดันของ บ้านยึดสังหาริมทรัพย์ บอสตันเผชิญกับวิกฤตการยึดสังหาริมทรัพย์มาสองสามปีแล้ว และนี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับเจ้าของบ้านทุกคนในรัฐ เมื่อดูราวกับว่าสิ่งต่างๆ กำลังจะคลี่คลาย สำนักงานของนายกเทศมนตรีก็เข้ามาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ Patricia Canavan ซึ่งเป็นที่ปรึกษาในสำนักงานของนายกเทศมนตรีเมืองบอสตัน กำลังดำเนินการตามแผนและได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ หลังจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนบ้านในรายชื่อการยึดสังหาริมทรัพย์ในบอสตัน Canavan เชื่อว่าทางเลือกที่ดีที่สุดคือการเรียกคืนละแวกใกล้เคียงที่ว่างเปล่าเนื่องจากวิกฤตการยึดสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในสุนทรพจน์ของเธอที่การประชุมสุดยอดนโยบายการพัฒนาชุมชนของธนาคารกลางแห่งคลีฟแลนด์ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ เธอได้เรียกร้องให้ธนาคาร สถาบันการเงิน และผู้ให้กู้พยายามรีไฟแนนซ์เงินกู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่จะหยุดการยึดสังหาริมทรัพย์

ตามรายงานทางสถิติของสำนักงานนายกเทศมนตรีเมืองบอสตัน จำนวนเงินกู้ซับไพรม์ที่คนในบอสตันใช้นั้นค่อนข้างสูง และ 65% ของเงินกู้ยืมเหล่านั้นถูกนำออกไปโดยคนในละแวก คอนโดสาทร ส่วนน้อยหรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มรายได้เจียมเนื้อเจียมตัว ส่วนใหญ่ของ 65% อยู่ในการยึดสังหาริมทรัพย์แล้ว เช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของประเทศ คลื่นของการยึดสังหาริมทรัพย์ไม่ได้ช่วยชีวิตเจ้าของบ้านในบอสตันเช่นกัน อันที่จริง ในช่วงสองปีที่ผ่านมา อัตราการยึดสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในปี 2549 จำนวน เป็นเจ้าของบ้านมีจำนวนรวมเพียง 64 แห่ง ในขณะที่ปี 2550 มีทรัพย์สินรอการขายเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ 704 ยูนิต บ้านและ ณ วันที่ (2551) มีจำนวน 774 และกำลังเพิ่มขึ้น

ผลกระทบในทันทีของการยึดสังหาริมทรัพย์รวมถึงครอบครัวเร่ร่อน ย่านที่ว่างเปล่า และอัตราการเกิดอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น บ้านราคาถูกของและอื่นๆ เพื่อต่อสู้กับแง่มุมเชิงลบของการยึดสังหาริมทรัพย์ในชุมชนต่างๆ Tom Menino นายกเทศมนตรีเมืองบอสตันได้สร้างทีมยุทธวิธีสำหรับการแทรกแซงการยึดสังหาริมทรัพย์ ทีมงานมีการประชุมทุกสัปดาห์เพื่อให้พวกเขาสามารถจัดทำโปรแกรมรักษาเสถียรภาพของพื้นที่ใกล้เคียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ